วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ต้องทบทวนตัวเอง

กลับมาถึงกทม.ด้วยหัวใจสบายๆ แต่เริ่มตึงเล็กน้อยเพราะต้องขับรถเอง มาจอดแถวๆจตุจักรเพื่อรอเพื่อนสาว จอดรถเรียบร้อยพบสายตามองมาด้วยความแปลกประหลาด ไม่สนใจเดินต่อไปเพื่อไปรอพบเพื่อนสาว สายตาเดิมยังจับจ้องอยู่ มีอาการเหมือนเดินตามมาห่างๆ แวะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อให้พ้นจากการติดตามที่เป็นความรู้สึก เดินออกมาจากห้องน้ำ เจ้าของสายตาคุ่นั้นเดินสวนเพื่อเข้าห้องน้ำ เราเร่งฝีเท้าออกมาอีกนิด

สักพักมีเสียงตะโกน และออกติดตาม...เราหันหลังกลับอยู่ในถ้าเตรียมพร้ม ยืนอย่างผ่อนคลายหัวใจเริ่มเต้นแรง “ขอโทษครับขอเบอร์หน่อยสิ ว่างๆจะโทรหา ชอบดูท่าทางเป็นมิตรมากเลย” หัวใจยังนิ่ง อึ้งเล็กน้อย “อย่าดีกว่าครับ” คำตอบอย่างสุภาพ มือกำหลวมๆ “ขอเบอร์หน่อยสิ อยากคุยด้วยจริงๆ แต่วันนี้ไม่สะดวก” ใบหน้ายิ้มอย่างมีความหมาย “ฮึ้ย!” ความคิดในใจผุดขึ้น “อย่าดีกว่าครับ หากอยากคุยเชิญเดินคุยตรงนี้ดีกว่าครับ” แล้วเราก็เชื้อเชิญอย่างสุภาพ พร้อมออกเดิน ยังเดินตามครับ ถามนู้นนี่ ไปเรื่อย เราคุยกันอย่างดีเรื่องนู้นนี่ตามประสาคนเพิ่งเคยพบ เหมือนถูกสอบประวัติอย่างนั้น ผมก็ตอบเค้าตามความจริงนะครับแม้ว่าจะมีความไม่สบายใจเพราะความคิดมากและฟุ้งซ่านของเราอยู่ แต่ก็รู้สึกพลังที่คุณคนนี้ส่งออกมาได้เรื่อยๆและแรงเหลือเกิน

คุณคนนี้เป็นผู้ชายวัยกลางคนลงพุงแล้ว สีผมเริ่มเปลี่ยนสี สวมแว่นตา หนวดเคราโกนไม่เกลี้ยงนัก ในมือถือโทรศัพท์ตลอดเวลา... มีความรู้อยู่นเกณฑ์ดีถึงมาก รอบรู้ในหลายเรื่อง รู้สึกว่าในเรื่องของการบริหารจัดการจะรอบรู้เป็นพิเศษ

คุณคนนี้เค้าเดินตามเรามาจนถึงบันไดรถไฟฟ้า แล้วเราก็ขอตัวปลีกตัวโทรศัพท์ ใจเราเริ่มว้าวุ่น บอกให้เพื่อสาวรีบมาทันที เมื่อเราคุยโทรศัพท์เสร็จ เค้าเดินเข้ามาอีก ไม่ให้จริงๆเหรอ ขอเถอะนะ” “ อย่าดีกว่าครับ ขอบพระคุณมาก”แล้วคุณคนนี้ก็เดินจากไป
หัวใจเรายังเต้นแรงต้องมานั่งทบทวนตัวเองดีๆ ว่าทำไมหนอ เราเป็นอะไรหนอทำไมถึงดึงดูดเพศเดียวกันเสียเหลือเกิน? หรือว่าเราเองก็เป็น ผีเห็นผีมันดูกันออก???

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เกี่ยวกับฉัน

ในที่แห่งนี้เป็นที่ถ้อยแถลงในหัวใจเรา