วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ผู้สังเกตการณ์

ผู้สังเกตการณ์
วันนี้ตัดสินใจไม่นำรถออกมาเพราะเหตผลหลายประการ เพื่อที่จะหยุดตัวเองจากความเครียดในการขับรถ รับรู้ได้ถึงร่างกายที่ว่าไม่เป็นปกติในส่วนกระดูกสันหลังอันเนื่องมาจากท่าทางในการนั่งขับรถมานานๆ ความรู้สึกหยิ่งผยองภายในกับการมีรถเป็นเครื่องบ่งบอกความ”มี” ซึ่งทำให้ความเป็นอัตตาของเราเพิ่มขึ้นอีกนิด ความต้องการที่จะพาตัวเองเคลื่อนตัวเข้าไปสู่สังคมคือลดพื้นที่แห่งความเป็นส่วนตัวหรือความปลอดภัยให้กับตัวเอง ความคุ้มค่าของการเดินทางซึ่งเดินทางเพียงคนเดียวเท่านั้นพลังงานที่จะสูญสิ้นไปอาจมากมายจนเกินไป

แน่นอนความรู้สึกไม่ปลอดภัยภายในย่อมมี เป็นเรื่องดีที่สังเกตเห็นได้ ความกลัวการลำบากต่างๆนานนาที่เริ่มประดังเมื่อตัดสินใจปิดประตูบ้าน เจอแดดร้อนเปรี้ยง และท้องฟ้าที่อึมครึมอยู่ แน่นอนร่มในมือที่เตรียมไว้อาจช่วยได้ แต่รองเท้าที่เราหวงอาจเปียกปอนเปรอะเปื้อนจากสายฝนที่อาจตกได้วันนี้ ความไม่แน่ในหัวใจเริ่มประดังเข้ามา เห็นได้ชัดว่าใจหนึ่งต้องการความแน่นอนและสะดวกสะบายจึงคิดจะเปิดบ้านเพื่อนำรถออกไป เมื่อเห็นเท่านั้นจึงผละออกจากความคิดนั้นแล้วก้าวเดินู่โลกพร้อมมองความรู้สึกของตัว

ความอึดอัดเริ่มมีในใจเมื่อขึ้นรถโดยสารที่รับส่งผู้คนภายในซอยออกสู่ถนนใหญ่ มันอึกอัดเพราะการมัวแต่เฝ้ามองดูตัวเองอย่างจับจ้องเกินไป ความเครียดในใจมันก็บังเกิด พ่นลมออกจากปาก สักสองสามครั้ง แล้วปล่อยให้จิตไหลออกไปตามเรื่องราวสบายขึ้น มารู้สึกตัวอีกทีเมือ่ตัวเองก้าวเดินเพื่อไปรอรถประจำทางสาธารณะที่จะพามุ่งสู่เป้าหมาย

มองดูเวลายังมอีกมาก แวะหาอะไรใส่ท้องก่อนเพื่อเพื่อจะได้คลายความทรมานของร่างกาย ระหว่างกินซึ่งโดยปกติเราอาจต้องสั่งอีกชามเพื่อเติมช่องว่างในกระเพาะให้เต็ม หวนถึงความอึดอัดที่เคยมี ดูตัวเองแท้จริงแล้วก็รู้ว่า ดื่มน้ำสักแก้ว ซดน้ำซุบในชามให้หมดน่าจะเต็มความต้องการนั้นไปได้ ยืดเวลาดูตัวเองอีกนิด และเมื่อใกล้หมดก็พบว่ามันพอดีไม่อิ่มมากจนเกินไป เห็นความอยากที่มากขึ้น จึงจ่ายสตางค์แล้วออกเดินทาง

เวลาก็ยังเหลือ เยอะตัดสินใจขึ้นรถประจำทางปรับอากาศเพื่อจะนั่งให้ระยะทางนั้นไกลขึ้น เลือกที่จะไม่นั่งรถไฟฟ้า เพราะรถไฟฟ้าทำให้เรารีบเหลือเกิน บนรถประจำทางสาย ๒๖ ค่าโดยสาร ๑๑ บาท โดยไม่ต้องเสียเงินค่ารถไฟฟ้าเพิ่ม อาจใช้เวลามากหน่อย ความเคยชินเดิมๆที่เร่งรีบภายในก็ทำให้เราอึดอัดเพราะการจราจรที่ติดขัดพอตัว ความหงุดหงิดก็ย่อมมี เลือกที่จะปล่อยให้ภาวะมันเกิดโดยไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมันไม่ปัดหรือขัดขวาง ทอดอารมณ์ให้ออกไปจากความอึดอัด มองออกไปนอกหน้าต่าง อย่างเหม่อบางๆ

ช่องซ้ายสุดของถนนขณะรถติดไฟแดงอยู่ตรงแยกอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ รถยนต์ยี่ผุ่นคันหนึ่งอายุไม่น่าจะต่ำกว่า ๒๐ปีแต่สียังดูใหม่ ความคิดก็เกิดว่า อาจเพราะความใส่ใจของผู้เป็นเจ้าของ รถคันนั้นเปิดไฟกระพริบอยู่ คุณป้าคนหนึ่งเดินลงจากรถมาก หิ้วถุงพลาสติกและกระเป๋าถือ ถัดออกไปอีกหน่อยมอเตอร์ไซค์รับจ้างคันหนึ่งรับผู้โดยสารแล้วค่อยๆเคลื่อนในระยะกระชั้นออกมาขวางหน้ารถเพื่อเข้าสู่ช่องทางขวามือ รถยนต์คันนั้นก็เคลื่อนตัวออกไปช้าๆ สะกิดกัน ผู้โดยสารหลังมอเตอร์ไซค์คันนั้นมองหน้าคนขับรถยนต์อย่างไม่พอในนัก คนขี่ก็หันมามองรถตัวเอง พร้มอส่ายหัวไปมา ดูแล้วจะไม่เป็นอะไรมาก

ความไม่พอใจของผู้โดยสาร และคนขับ ความตระหนกตกใจของคนขับรถยนต์ที่ลงมาดูความเสียหายของรถมอเตอร์ไซค์ก่อนรถตัวเอง เอ...เป็นความรู้สึกของเขาหรือว่าเป็นเพียงเพราะท่าทางที่ทำให้เรารู้สึกแทนเขาอย่างไหนกันแน่?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เกี่ยวกับฉัน

ในที่แห่งนี้เป็นที่ถ้อยแถลงในหัวใจเรา