วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2552

เดินทาง (เล่าสู่กันฟัง)

ช่วงเวลาของการเดินทางเพื่อเสาะหาประสบการณ์ของตัวเองได้เริ่มขึ้นขึ้นแล้ว หลายวันที่ผ่านมาเราได้เจอกับผู้คนมากมายหลากหายความเป็นมา ทั้งจากสังคมชั้นสูงมาถึงคนชั้นกลาง และคนชั้นล่าง แต่มีอย่างหนึ่งที่เหมือนกันคือความเป็นคน ความเป็นมนุษย์ และมีจิตใจเหมือนกัน

เราเริ่มจากการเดินทางไปเข้าค่าย self Discovery Camp ที่ Horseshoe Point พัทยา เป็น camp ธรรมะของเด็กๆ วัยตั้งแต่ 7-12 ปี เป็นค่ายที่สนุกทีเดียว เพราะเราได้ดูแลเด็กๆ เล็กๆ มันเป็นการให้ที่ใหญ่จริงๆ เด็กเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเทวดาน้อยๆที่อุดมไปด้วยทุนทรัพย์ที่พ่อและแม่ยินดีจ่ายเพื่อให้ลูกๆได้รับประสบการณ์ดีๆ อาจเรียกได้ว่าเป็นค่ายธรรมะ ที่ต้องจ่ายแพงมากเหมือนกัน

ค่ายนี้ให้เด็กๆได้กลับมาเท่าทันความตัวเอง รียกได้ว่า ”กลับมารู้สึกตัว” เป็นค่ายที่แนะให้เด็กๆได้กลับมาเพิ่มพลังให้กับพระเอกคนสำคัญนั่นคือ “สติ” การมีสตินี้เป็นเรื่องสำคัญแก่ชีวิตตัวเองเป็นอย่างยิ่งเพราะจะเป็นอัศวินที่เข้ามา “รู้” เข้ามาเห็น”ผี” ที่เกิดขึ้นในใจของเราทุกคน ไอ้ผีที่ว่านี้แบ่งออกเป็น หัวหน้าผี หลักอยู่สามตัวด้วยกันคือ ผีขี้โลภ ผีขี้โกรธ และผีขี้หลง ซึ่งผีทั้งสามตัวนี้ก็มีลูกสมุนอยู่เป็นร้อยเป็นพัน มากมายจริงๆ จะว่าไปผีเหล่านี้เข้มแข็งและอ่อนแรงมากในขณะเดียวกัน คือหากพระเอกของเรา นั่นคือสติที่อ่อนกำลังลงแล้ว ผีก็จะเข้าคลอบงำจิตใจเราได้แล้วก็จะตกเป็นทาษของมันจริงๆทั้งใจและกายของเรา แต่ในคราวเดียวกันหากพระเอกของเราเก่งขึ้นเพียงแค่เห็นผีที่ผุดึ้นมาเท่านั้น ผีร้ายก็จะแตกกระเจิงไปในทันที ฉะนั้นการมีสติก็คือการฝึกให้พระเอกของเรานี้ปราบผีเหล่านี้ลงได้

ค่ายนี้เป็นค่ายที่เปิดโลกให้กับเด็กเพราะมีกิจกรรมต่างๆมากมายให้เด็กได้ทำ ไม่ว่าจะเป็นการขี่ม้า ซึ่งเป็นตัวชูโรงให้กับ camp นี้ กิจกรรมศิลปะ กีฬา นันทนาการต่างๆ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆที่ได้ทำกิจกรรมต่างๆที่เป็นการเปิดประสบการการเรียนรู้ให้กับเด็กๆ และเสริมด้วยการเท่าทัน การฝึกฝนพระเอกของทุกคนให้เข้มแข็ง เพื่อเตรียมพร้อมกับสิ่งที่เผชิญในชีวิตจริง
ต่อมาเราเดินทางไปรู้จักกับเพื่อนใหม่ที่เรารู้สึกว่ามันใช่ เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอะไร อยู่ในตัว เป็นกลุ่มที่ต้องการมาปลุกอะไรบางอย่างที่วิถีสังคมกลืนกินให้สิ่งนี้มันหายไป...”จิตวิญญาณ”

เราได้รู้จักทั้งเพื่อน ได้รู้จักชีวิต ได้เห็นถึงความกล้าหาญ ของเพื่อนใหม่ของเราหลายคนที่ตัดสินใจออกมาเดินทางเพื่อแสวงหาอะไรบางอย่างที่ขาดหายไปให้กลับชีวิต เท่านั้นยังไม่พอยังช่วยค้นหาสิ่งที่ถูกโลกแห่งวัตถุกลืนกินให้หายไปจากจิตใจของใครๆให้ตื่นขึ้น เป็นกลุ่มคนที่น่าสนจจริงๆ เราเชื่อเหลือเกินว่าเพื่อนใหม่ของเรากลุ่มนี้จะมาสามารถ ปลุกผู้คนจำนวนมากให้ตื่นขึ้น ได้มากมาย เพราะพลังที่มีอยู่ในตัวของคนเหล่านี้ล้วนยิ่งใหญ่ จริงๆ

วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2552

จิตตปัญญาคืออะไร?

จิตตปัญญา จริงๆแล้วไม่มีอะไร เป็นเพียงแค่นำหลักการปรัชญาตะวันออกมาเรียนในมุมของปรัชญาตะวันตก เท่านั้นเอง รากฐานของมันมาจากการปฏิบัติเท่านั้น

หลักสูตรนี้เป็นการดึงพวกที่ทำงานสังคมกลับเข้ามาภาวนา เพราะมันเป็นแกนหลักสำคัญของชีวิต และได้ปริญญาด้วย

วันอังคารที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2552

test

ร่างแห่งเรา

เกื้อกูล


ปูบนหาดทราย

หอยกับลูกมะพร้าว

หาดทรายกับร้อยหอย

วันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2552

ข้อฝากไว้สำหรับพุทธบุตร พุทธธิดา

เราก็ทำไป ปฏิบัติไป ทำไป กลับมารู้สึก ให้เห็นเท่านั้น แค่รู้มันไม่พอ เพราะบางทีเราก็ตามมันไป จนหลงจนเพ้อแล้ว

ก่อนกลับอาจารย์บอกกับเราว่า "ทำนะ พอได้แล้วค่อยมาคุยกัน"
นั่นสิ หรือว่าชาตินี้เป็นชาติแรกที่เราเพ่งได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วได้พบกับพระธรรม เป็นชาติที่เราได้ปฏิบัติด้วยความเป็นมนุษย์จริงๆ

วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2552

อาทิตย์อัสดง


อาทิตย์จะลารอน แสงอ่อนจะลับลง
ความหวังยังเหลือหลง เป็นมั่นคงดำรงไว้
แสงแดงที่ใกล้ดับ ยังประดับนภาได้
ท้องฟ้ายังสวยใส แม้แสงไฟจะกล้ำกลืน

วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2552

ความจริงของเรา

แล้วเราเห็น pattern ของเราไหม?

นั่นสิ เราเห็นหรือเปล่า... เท่าทันมันหรือเปล่าหรือว่าไม่..แต่เพียงแค่ไล่ตาม ไม่เท่าทัน?
เรารู้จักตัวเองชัดหรือยัง เข้าใจว่ามันชัดหรือว่า มันชัดจริงๆ..อย่างไรของมันกันแน่ ไม่แน่ใจ?
คงอยู่กับความไม่แน่ใจอย่างนี้ต่อไป จนกว่าสักวันเราจะพบว่ามันคือความจริง...ของเรา

วันพุธที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2552

ต้องการอะไรในชีวิต

นั่นสิ เป็นคำถามที่น่าสนใจ
ว่าเราต้องการอะไรในชีวิต
บางคนก็สามารถตอบได้ ชัดเจน
จนบางครั้งสามารถวางแผนให้กับชีวิตตัวเองได้

บางคนไม่เหมือนกัน
ไม่รู้อะไรเลยในชีวิต ตามคนอื่นๆไปเสียหมด
จนบางครั้งลืมไปเลยว่าตัวเองเป็นใคร ต้องการอะไร

วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2552

integrity

“Integrity ในพจนานุกรมของดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม บอกไว้ว่า เป็นคำนาม ซึ่งแปลว่า การยึดหลักคุณธรรม, ความซื่อสัตย์, ความสมบูรณ์, ความมั่นคง ส่วนในพจนานุกรม Webster’s dictionary Online ได้ให้ความหมายไว้ว่า Integrity คือ “comprises the personal inner sense of "wholeness" deriving from honesty and consistent uprightness of character.” หมายความว่า การประกอบของบทบาทของคนในมิติด้านในอย่างเป็นองค์รวม ซึ่งได้มาจากความซื่อสัตย์และความซื่อตรงต่อบทบาทนั้น

ในความหมายข้างต้น ทำให้ข้าพเจ้าย้อนไปถึงวลีหนึ่งที่ข้าพเจ้าเห็นที่หน้าห้องเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ที่โรงเรียนสัตยาไส เขียนเอาไว้ว่า “เด็กจะเป็นในสิ่งที่ครูเป็นไม่ใช่สิ่งที่ครูสอน”

“เด็กจะเป็นในสิ่งที่ครูเป็นไม่ใช่สิ่งที่ครูสอน” ในมุมมองของข้าพเจ้า ประโยคนี้เป็นประโยคที่เข้าถึงใจข้าพเจ้าเป็นอย่างมาก เพราะสะท้อนออกมาได้เป็นอย่างดีว่า เด็กนั้นมีการเลียนแบบและ “เป็น” จากสิ่งที่ครูเป็นไม่ใช่จากสิ่งที่ครูสอน การสอนในที่นี้ข้าพเจ้าตีความว่า อาจจะเป็นเพียงการถ่ายทอดความรู้จากสมองมาสู่สมอง หรือการท่องจำแล้วมาถ่ายทอดให้ฟังเท่านั้น ไม่ได้ผ่านออกมาจากด้านในแต่อย่างใด

ข้าพเจ้าในฐานะที่มีพื้นฐานที่เชื่อมโยงผูกพันกับครูมาทั้งชีวิต และเป็นผู้หนึ่งที่ตามหาครูที่จะเป็นแบบอย่างให้กับตัวเองมาโดยตลอด มีความประทับใจในประโยคข้างต้นเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อพิจารณาดูก็จะพบว่า บุคคลต้นแบบของข้าพเจ้าทุกคน “เป็น” อย่างที่ท่านเป็นจริงๆ กล่าวคือท่านไม่เสแสร้งแกล้งทำใดๆ ท่านสอนอย่างไม่สอน หมายถึงแสดงให้ดูเลยว่าท่านเป็นคนอย่างไร ซึ่งข้าพเจ้าโชคดีที่มีปัญญาในการเลือกสิ่งที่ดีของแต่ละท่านมาปรับใช้ มาเป็นแบบอย่างให้กับชีวิตของข้าพเจ้าเอง

หากมองถึง Integrity ในตัวของข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้ามองว่าข้าพเจ้ายังไม่มี Integrity มากนักเพราะข้าพเจ้ายังไม่สามารถหาและเข้าใจอัตลักษณ์แห่งตนได้อย่างเพียงพอ ที่จะกล้าเอ่ยว่าข้าพเจ้าเป็นอย่างสิ่งที่ข้าพเจ้าคิดและเชื่อ เพราะบางอย่างข้าพเจ้าก็ยังไม่แน่ชัดในความเป็นตัวตนของตัวเอง ไม่สามารถหาเหตุผลบางอย่างมารองรับการกระทำอย่างหนึ่งของตัวเองได้

ข้าพเจ้าเชื่อว่าคนหนึ่งหากจะสามารถ ซื่อสัตย์ต่อตัวเอง ต่อสิ่งที่ตัวเองคิด และเป็นอย่างนั้นได้ (Integrity) จะต้องเข้าใจในสิ่งที่ตนเองคิด เชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองคิด และกระทำออกมาด้วยความมั่นใจ เป็นเนื้อเป็นตัว เป็นเนื้อแท้ของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ และอยู่บนหลักของศีลธรรมจรรยา
ในแง่ของกระบวนกร ข้าพเจ้าเห็นว่าบุคคลที่เป็นตัวเองอย่างแท้จริง เป็นในสิ่งที่ตัวเองเชื่อและเป็นอย่างนั้นจริงๆ ภาพแรกที่ข้าพเจ้านึกถึงคือ พี่เมธี จันทรา แม้ว่าข้าพเจ้าเองจะเคยเข้ากระบวนการที่พี่เมธี เป็นผู้นำเพียงเล็กน้อย แต่ข้าพเจ้ารู้สึกได้ด้วยความรู้สึกภายในว่า พี่เมธีเป็นผู้ที่มีความเป็น Integrity อยู่เต็มเปี่ยม และแสดงออกในสิ่งที่พี่เมธีเป็นอย่างแท้จริงโดยไม่เสแสร้งแต่อย่างใด

หากกล่าวโดยสรุป Integrity ในความหมายของข้าพเจ้าหมายถึง การที่บุคคลคนหนึ่งเป็น และแสดงออก ผ่านชีวิตทั้งหมดของเขา อย่างซื่อสัตย์ต่อตัวเอง ไม่เสแสร้ง ออกมาจากสิ่งที่ตนเชื่อ ด้วยความมั่นใจ ซึ่งอยู่บนฐานความถูกต้องมีศีลธรรม”

ข้าพเจ้า

วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2552

ทางรอดเดียว

การศึกษาทั่วไปไม่สามารถพาเราออกพ้นจากวิกฤติ และความรวดเร็วของสังคมยุคปัจจุบัน
ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นๆในแต่ละวัน ในทุกนาที ทุกวินาที
การศึกษาใหม่ที่จะพามนุษย์ให้ข้ามพ้นสถานการณ์เหล่านี้ได้คือ ...
การกลับเข้ามา เท่าทันตัวเอง เท่านั้น

จัดศูนย์เล็งเป้า...ยิง

หากวางศูนย์ ตั้งเป้าไว้อย่างเหมาะเหมง....
ยิงอย่างไรก็โดน....

เป้าหมายของเราคืออะไร?
มองศูนย์หลัง ที่เปรียบดั่งปัญญา
มองศูนย์หน้า ดุจดั่งความเห็นอกเห็นใจ
แล้วก็เหนี่ยวไก ปล่อยความรักออกไปสู่เป้า

My way

(P. Anka, J. Revaux, G. Thibault, C. Frankois)[Recorded December 30, 1968, Hollywod]
And now,
the end is hereAnd so I face the final curtain
My friend, I'll say it clear
I'll state my case, of which I'm certain
I've lived a life that's full
I traveled each and ev'ry highway
And more, much more than this, I did it my way

Regrets, I've had a few
But then again, too few to mention
I did what I had to do and saw it through without exemption
I planned each charted course, each careful step along the byway
And more, much more than this, I did it my way

Yes, there were times, I'm sure you knew
When I bit off more than I could chew
But through it all, when there was doubt
I ate it up and spit it out
I faced it all and I stood tall and did it my way

I've loved, I've laughed and cried
I've had my fill, my share of losing
And now, as tears subside, I find it all so amusing
To think I did all that
And may I say, not in a shy way,
"Oh, no, oh, no, not me, I did it my way

"For what is a man, what has he got?
If not himself, then he has naught
To say the things he truly feels and not the words of one who kneels
The record shows I took the blows and did it my way!
Yes, it was my way

Photobucket

ครูคือใคร

ใครคือครู ครูคือใคร ในวันนี้ ใช่อยู่ที่ปริญญามหาศาล
ใช่อยู่ที่ เรียกว่า ครูอาจารย์ ใช่อยู่นาน สอนนาน ในโรงเรียน
ครูคือผู้ ชี้นำ ทางความคิด ให้รู้ถูก รู้ผิด คิดอ่านเขียน
ให้รู้ทุกข์ รู้ยาก รู้พากเพียร ให้รู้เปลี่ยน แปลงสู้ รู้สร้างงาน
ครูคือผู้ ยกระดับ วิญญาณมนุษย์ ให้สูงสุด กว่าสัตว์ เดรัจฉาน
ครูคือผู้ สั่งสม อุดมการณ์ ปณิธาน เพื่อมวลชน ใช่ตนเอง
ครูจึงเป็น นักสร้าง ผู้ใหญ่ยิ่ง สร้างคนจริง สร้างคนกล้า สร้างคนเก่ง
สร้างคนให้ เป็นตัว ของตัวเอง ขอมอบเพลง นี้มา บูชาครู

ผู้แต่ง เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

พรจากท่านมิราเรปะ


ขอความนอบน้อม จงมีแด่ท่านอาจารย์มารปะผู้มีเมตตา

ผู้ปกป้องสรรพสัตว์

ประดุจบิดาปกป้องลูกน้อย ผู้ถึงฝั่งแห่งความสำเร็จแล้ว

ดูกรสานุศิษย์ทั้งหลาย ผู้มาสมาคม ณ ที่นี้

ขอท่านจงฟัง ท่านผู้มีความกรุณาการุณ์แก่เรา

เราขอแผ่เมตตาต่อท่านทั้งหลาย


ขอให้ทั้งคุรุและศิษย์ ซึ่งต่างเอื้อเฟื้อมีคุณต่อกัน

จงได้พบกันอีกครั้งในพุทธภูมิอันบริสุทธิ์


ขอให้บรรดาสาวกสาวิกา ผู้มาประชุมกัน ณที่นี้

จงมีแต่ความสุขอายุยืนนาน


ขอความปราถนาของท่านในทางธรรมจงสำเร็จผล

โดยปราศจากอกุศลจิตใดๆผุดขึ้นมาเป็นอุปสรรค


ขอให้สถานที่แห่งนี้ จงปราศจากความเจ็บป่วยและสงคราม

จงอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร ประสบแต่สิ่งดีงาม


ขอให้ศิษย์ทุกท่านจงตั้งตนอยู่ในพระธรรม

ขอให้เราพบกันอีกครั้งในแดนพุทธภูมิอันบริสุทธิ์

ผู้ได้เห็นหรือได้ยินเรา ผู้รู้เรื่องราวในชีวิตของเรา

ผู้ซึ่งแม้ได้ยินเพียงเรื่องเล่าขานและชื่อเรา

เราขออำนวยพรไปยังท่านผู้ดำเนินตามเราโดยการฝึกปฏิบัติสมาธิ

ผู้สนใจถาม ผู้เล่าและผู้ฟังเรื่องราวของเรา

ผู้อ่านชีวประวัติแล้วยกย่องเทิดทูล

ผู้ถือเราเป็นแบบอย่างในชีวิต

ขอให้เขาเหล่านั้นจงได้พบเรา ณ แดนพุทธภูมิอันบริสุทธิ์


สำหรับอนุชนรุ่นหลัง

ถ้าหากเขาสามารถทำสมาธิจิตตามมรรควิธีที่เราได้ปฏิบัติมา

ขอให้เขาจงข้ามพ้นจากอุปสรรคและความผิดพลาดทั้งหลายทั้งปวง


ขออำนวยพรให้ผู้ปฏิบัติธรรมตามมรรควิธีแห่งเรา

จงได้รับผลอันหาค่ามิได้

ขอท่านผู้อื่นที่ดำเนินรอยตามปฏิปทานี้

จงได้รับผลแห่งความกตัญญูอันหาค่ามิได้

ขอท่านผู้ได้สดับเรืองเราจงได้รับพรอันยิ่งใหญ่

ด้วยพรอันยิ่งใหญ่ทั้งสามประการข้างต้นนี้

ขอผู้ที่เพียงได้สดับเรื่องราวของเรา จงได้รับความหลุดพ้น

ขอผู้ที่บำเพ็ญสมาธิภาวนาจงสำเร็จผลตามมุ่งหมาย


ผู้ที่บำเพ็ญสมาธิภาวนาในถ้ำที่เราเคยใช้เป็นที่อาศัย

และผู้ที่บูชาของใช้ส่วนตัวอันมีเพียงไม่กี่ชิ้นของเรา

จงได้รับความสุขจากการบูชานั้น ไม่ว่าสิ่งนั้นจะอยู่ไหนก็ตาม


ขอให้เราจงสถิตในทุกถิ่นที่ ในทุกความว่างว้าง

ดุลดังความเวิ้งว้างที่โอบกอดธาตุดิน นำ ไฟ และลมไว้

ขอให้เหล่าทวยเทพและนาคา รวมทั้งเจ้าที่

อย่าได้สร้างความวุ่นวายเดือดร้อน


ขอให้ความปราถนาของผู้ที่อุทิศตนเพื่อธรรม

จงได้รับความหวานชื่นแห่งรสพระธรรม

ขอให้สรรพสัตว์แม้ผู้ที่มัปัญญาต่ำต้อยที่สุด

จงได้รับการชี้นำจากพวกเรา จนถึงฝั่งแห่งพระนิพพาน


จากบทอวยพรของท่าน มิลาเรปะ

ชีวิประวัติของมิลาเรปะ

ลอบซัง พี. ลาลุงปะ เขียน/ เชน นคร แปล

เกี่ยวกับฉัน

ในที่แห่งนี้เป็นที่ถ้อยแถลงในหัวใจเรา