วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2552

youth inspiration camp



การจัดกิจกรรม ครั้งนี้เป็นเสมือนการเรียนรู้แบบ Project Based Learning ของทีมและของตัวเอง เป็นการเรียนรู้ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นคิด ทำ แก้ปัญหา สรุปผล ปรับปรุงต่างๆนานา เรียกได้ว่าเปิดโลกของชีวิตการทำงานที่เริ่มต้นจากแรงบันดาลใจอย่างแท้จริง

จากความรักของ “แม่” หรือ”โลก” ที่คอยโอบอุ้มเกื้อกูลสรรพสิ่งที่อยู่ในตัวเธออันเป็นเสมือนเหล่าเซลต่างๆที่เคลื่อนที่เคลื่อนไหว ประกอบกันเป็นสิ่งต่างๆบนโลก Gaia (กาญ่า) ชื่อของเทพที่เป็นเสมือนแม่ผู้ดูแลโลกใบนี้ จึงได้นำมาใช้เป็นเครื่องเตือนใจเหล่าคนหนุ่มสาวเหล่านี้ หรือ่านเป็นสำเนียงไทยๆว่า “กายา” อันหมายถึงความเป็นเนื้อเป็นตัว นั่นเอง

Gaia Education เริ่มต้นจากคนหนุ่มสาวที่มีความฝันที่อย่างจะทำอะไรเพื่อสังคม อยากที่จะเปลี่ยนแปลง คนหนุ่มสาวเหล่านี้ได้รับการเกื้อกูลจากครูอาจารย์ ที่เรียกได้ว่าเป็นกัลยาณมิตรคอยชี้แนะและส่งเสริมสนับสนุนให้ความฝันของพวกเราได้เกิดขึ้น อาจารย์ณัฐฬส วังวิญญู ผู้อำนวยการสถานบันขวัญแผ่นดิน และอาจารย์ธนัญธร เปรมใจชื่น ผู้ก่อตั้งสถาบันThe present (ของขวัญแห่งปัจจุบันขณะ) สองสถาบันการศึกษานอกระบบที่คอยเกื้อกูลเรี่ยวแรง กำลังทรัพย์และเป็นพี่เลี้ยงอยู่เสมอมา

กิจกรรมนี้เกิดจากคนคนหนุ่มสาวไม่กี่คนที่มีแรงบันดาลใจ มีความฝันอยากจะจัดกิจกรรมดีๆให้กับเยาวชน ที่ไร้แรงบันดาลใจขาดความเชื่อมั่นเพราะกระแสสังคมที่กดทับและบดบังจนไม่เหลือพื้นที่ให้เสียงเล็กๆ อันเป็นเสียงแห่งความต้องการเดิมแท้ของตัวเองนั้นได้ถูกรับฟัง จนต้องผันพลังแห่งความต้องการเดิมแท้ของตนเองเหล่านั้นให้กลับสู่ด้านที่มืดมน อันเป็นการเรียกร้องความมสนใจ หรือเป็นการต่อต้านการกดทับนั้นด้วยความรุนแรง อย่างที่เรียกว่า”แรงมาแรงกลับ” การเปิดพื้นที่ให้กับเยาวชนเหล่านั้นมีพื้นที่ให้ได้แสดงออกอย่างถูกต้อง การเยียวยาเซลเล็กๆที่กำลังจะเติบใหญ่ขึ้นมาเป็นเซลที่มีหน้าที่มาขับเคลื่อนโลกต่อไปจึงเริ่มต้นขึ้น และครั้งนี้ไม่ใช่การทำงานอาสาอย่างที่เราเคยทำๆกันมา เพราะเราคิดกันว่าด้วยความเป็นสัมมาอาชีวะ การทำให้คนก่อเกิดพลังในตัวเองนั้นก็เป็นเครื่องหนุนนำทางธรรมให้ก้าวหน้า แต่ทางโลกนั้นเราอาจต้องเบียดเบียนตนเองเกินไป งานครั้งนี้เราควรจะได้รับค่าเลี้ยงชีพบ้างตามสมมควร

จากปัญหาของการปิดพื้นที่กลายความเป็นปกติของสังคม สังคมที่บีบบดกระแสเสียงตัวตนภายใน ซึ่งแน่นอนย่อมกระเทือนถึงเยาวชนเช่นกัน โจทย์งานก็เริ่มขึ้น คือการเปิดพื้นที่เหล่านี้ขึ้นเพื่อให้เสียงเล็กๆได้รับการ”ฟัง” อย่างแท้จริง การสร้างคุณค่าในตัวเอง ค้นหาตัวเอง การรักและเคารพตัวเองและสร้างแรงบันดาลใจให้กับตนเองจึงกลายมาเป็นโจทย์สำคัญของกิจกรรมนี้ ไม่เถียงว่าเหล่าผู้จัดเองก็เคยเป็นกลุ่มหนึ่งที่ถูกกระทำจากสังคมเช่นกัน

กระบวนกรรับเชิญเป็นผู้ที่คร่ำหวอดในการเยียวยาเยาวชนเป็นอย่างมาก ซึ่งได้รับการน้อมเชิญของเหล่าผู้จัดอย่างยินดีและเต็มใจ อ.ธนัญธร เปรมใจชื่น (อ.น้อง) นักศิลปะบำบัดที่เชี่ยวชาญในการทำงานร่วมกับเด็กๆมาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานเกี่ยวกับเด็กที่ต้องโทษ หรืออยู่ในสถานพินิจ ฉะนั้นเด็กในเมืองซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของกิจกรรมนี้จึงไม่ใช่เรื่องยากแต่ประการใด
การทำงานครั้งนี้เราต้องมีเรื่องราวของ “เงิน” เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างช่วยไม่ได้ เพราะการตั้งเป้าว่าจะต้องมีเงินพอเลี้ยงตัวของเราได้ไม่เข้าเนื้อ ความเครียดจึงเริ่มมีในมวลหมู่ผู้จัดกิจกรรม จากที่เคยไม่ต้องการเงินเป็นการตอบแทนจากกิจกรรมเหล่านี้ “เงิน” ก็จึงกลับกลายมาเป็นประเด็นหลักอันหนึ่งในช่วงก่อนและหลังการทำงาน ความคุ้มทุนอยู่ที่เท่าไหร่? จากที่ตั้งเป้าเอาไว้ 30 คน จำนวนผู้เข้าร่วมจ่ายเต็มจริงแค่ 7 บวกกับที่เป็นผู้มาด้วยการรับทุนอีก 5 รวมเป็น 12 คน แม้ว่าจะช่วยกันหาผู้เข้าร่วมทุกทาง เพียงพอหรือไม่กับการจัด จะเข้าเนื้อหรือไม่ ความเครียดในเรื่องพวกนี้ก็อุบัติขึ้นกลางใจ ความหวั่นไหว ก็เข้ามาเยี่ยมเยือนในหัวใจ หน้าที่ต่อไปเป็นหน้าที่ของกัลยาณมิตร ที่เข้ามาให้กำลังใจ และสนับสนุน กำลังใจเหล่านี้เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงด้านในให้มีพลัง ทั้งจากกันและกัน ผู้ให้ใช้สถานที่ และครูอาจารย์ที่เข้าใจออกเงินส่วนตัวให้กิจกรรมเหล่านี้ได้เกิดขึ้น ซึ่งเป็นการหล่อเลี้ยงงานให้ก้าวเดินต่อไป แน่นอนทั้งผู้จัด ครูอาจารย์ และผู้ให้ใช้สถานที่ต่างมีแรงบันดาลใจอย่างเดียวกัน

เมื่อปัญหาของความคุ้มทุนในด้านการเงินถูกแก้ไข พลังจากภายใน เพื่อการสร้างแรงบันดาลใจก็กลับฟื้นคืน ออกเดินหน้าทำงานตามความฝันอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ หน้าที่ต่างๆถูกแบ่งออกไปอย่างมีระบบและค่อนข้างมีประสิทธิภาพเพราะงานทั้งหมดล้วนเลือกจากความสมัครใจ ฉะนั้นงานจึงเดินหน้าด้วยความไว้วางใจจากหัวใจเช่นกัน

เมื่อผู้เข้าร่วมกิจกรรมมาถึง จากการบังคับ ลากจูงมาเพื่อให้เข้าร่วมกิจกรรม อีกทั้งจากการมาสู่สถานที่แห่งใหม่ ความรู้สึกไม่ปลอดภัยภายในใจจริงมีมาก ท่าทีต่อการเข้าร่วมย่อมเป็นไปในด้านไม่ดีนัก เงียบบ้าง ป่วนบ้าง ลองดี ท้าทาย สาระพัดจึงเกิดขึ้น ไม่เป็นปัญหาสำหรับการเข้าใจและรับฟังของอาจารย์ผู้จัดกิจกรรม เพราะเป็นอย่างนี้เสมอๆ กิจกรรมแรกการแนะนำตัวเองอย่างสนุกๆ เกมเล็กน้อยๆ ก็ค่อยๆทะลุกำแพงของหัวใจของใครหลายคน การยอมรับ ให้โอกาส เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสะเดาะโซ่ตรวญแห่งหัวใจนี้ลงได้

การแสดงออกความเป็นตัวเองผ่านกระดาษหนึ่งแผ่น ที่ไม่ต้องเขียนอะไรให้ยุ่งอยากเพียงแต่แสดงความเป็นตัวเองออกมาให้มากที่สุด พับแล้วรีดให้เรียบ ฉีก ขย้ำ พับแล้วรีบให้เรียบ ฉีก ขย่ำ ฉีก ฉีก ฉีก ฟาดกระดาษกับพื้น แสดงความเป็นตัวตนออกมา เสียงระฆังดังขึ้น...ก้องกังวาน ทุกคนอยู่ในความสงบแล้วยิ้มให้กับตัวเอง วงแห่งความไว้ใจก็เปิดรับผู้เข้าร่วมอีกหลายคน การแบ่งปันเรื่องราวของตัวเองจากกระดาษที่แทนความหมายของตัวเองก็เริ่มขึ้น พร้อมอ่างน้ำตา เสียงหัวเราะกลบความจริง ใบหน้านิ่งๆแต่แววตากลิ้งกลอกไม่มั่นใจ

กระดาษหน้าเดียว ถูกนำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สมุดทำมือของตัวเองก็เกิดขึ้น เป็นสมุดที่เอาไว้เขียนความประทับใจ เขียนบันทึกเสียของตัวเองไว้ภายใน เป็นพื้นที่ปลอดภัยของตนเอง เสียงเพลงเบาๆ การแบ่งปันสิ่ง น้ำใจเล็กๆก็แสดงให้เห็น หยิบยื่นให้แก่กัน

ช่วงค่ำ จับคู่พูดคุยเรื่อง”ความฝัน”ของตัวเองเกิดขึ้นจากกิจกรรมง่ายๆ คุณค่าแห่งการรับฟังเกิดขึ้น น้ำตาหยดลงกับพื้นไม่ชัดเจนผ่านแสงเทียนสลัวๆ รวมกันเข้าฟังวิเคราะห์ถึงอุปสรรค์ที่ไม่ก่อให้ความฝันนั้นเกิดขึ้น ล้วนแล้วเป็นการปิดพื้นที่การไม่รับฟังกันทั้งสิ้น การไม่เข้าใจ ไม่ได้รับการเอาใจใส่อย่างถูกต้อง จากผู้เลี้ยงดูที่ไม่กล้าจะอ่อนโยนตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อยจวบย่างเข้าสู่วัยรุ่น วันแรกวงสนทนาก็ยาวออกไปกว่าที่ตั้งใจไว้เกือบชั่งโมง

อรุณรุ่ง ไม่มีการบังคับให้ตื่นเพียงบอกเวลาอาหารที่พร้อมกินเริ่มต้นเมื่อไหร่ และบอกเวลาเริ่มร่วมกัน ทุกคนมาตรงเวลา นอนไม่หลับบ้าง อยากกลับบ้านบ้าง ร้องไห้บ้างสำหรับหัวใจดวงเล็กๆ ทุกคนรับผิดชอบตัวเองได้ ไม่ต้องจ้ำจี้จ้ำไช เช้านี้สมุดเล่มน้อยใช้เป็นประโยชน์ บทกวีจากหัวใจ อันเกิดจากแรงบันดาลใจของตัวเองเริ่มขึ้น บทแล้วบทเล่า ยังติดกับฉัทลักษณ์จนความงามในจิตใจติดขัด เพราะคลังคำของเจ้ายังน้อยนัก ไม่เป็นไร มีเพียงความชื่นชม

เสียงหัวเราะ กลุ่มก้อนเดียวกันเริ่มเห็นมากขึ้น อาจเพราะเป็นเด็กความไว้วางใจจึงง่าย บ่ายนี้เล่นเรื่องราวของ “สัตว์สี่ทิศ” ดูตัวเองด้วยความสื่อสัตย์ว่าบุคลิกเราเป็นอย่างไร ลักษณะภายในเดียวกันอยู่ด้วยกัน รับรู้ถึงพลังของกันและกัน แม้ว่าการแสดงออกจะต่างกันบ้างบ้างเงียบ บ้างร้อนแรงอย่างทรงพลัง เป็นหน้าที่ของผู้ดูแลที่จะแยกให้ชัดเจนด้วยการป้อมคำถาม เปิดโอกาสให้เดินไปตามกลุ่มที่ไม่มั่นใจอย่างไม่มีความผิด

ค่ำคืนนี้เราดูภาพยนต์ เรื่อง The Corus ร่วมกัน ภาพยนต์ที่เปี่ยมไปด้วยเนื้อหาแห่งคุณค่าภายในของมนุษย์ และแลกเปลี่ยนแสดงทัศนะต่อเรื่องราวร่วมกัน เป็นการรับฟังอย่างไม่มีการตัดสินผิดถูก เป็นการเรียนรู้ร่วมกัน และเป็นการเรียนรู้กันและกัน โลกของความคิดถูกเปิดกว้างยิ่งขึ้นไป เป็นการยกระดับ หมุนเกียวความคิดขึ้นไปสูงขึ้นๆ วันนี้วงคุยหลังกิจกรรมยาวออกไปอีกมาก
เช้าวันใหม่ กวีวัจน์ จากหัวใจได้พัฒนาขึ้น ไร้แบบแผนแต่กลั่นออกมาด้วยความสดใหม่ ทรงพลังยิ่งขึ้น นั่นเป็นการพัฒนาศักยภาพและแรงบันดาลใจอย่างแท้จริง กิจกรรม Paper Marché จากวัสดุที่ดึงดูดใจเรา ก้อนหิน กิ่งไม้ และ เศษขยะ ทั้งหมดถูกนำมาติดต่อกันเป็นงานศิลปะพันเชื่อมกันเข้าด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ ไม่มีรูปแบบ เป็นจิตนการล้วนๆ รอยยิ้มกว้างขึ้น ไร้กรอบกฏเกณฑ์ทางความงามแบบวิทยาศาสตร์

บ่ายนี้เราออกไปเที่ยว เล่นน้ำ ร้อยพันรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความอ่อนโยน การดูแลกันและกัน ของทั้งผู้เข้าร่วม และทีมผู้จัด กิจกรรมต่างๆ เล่นกันอย่างเป็นหนึ่งเดียว คุณค่าในตัวเองของใครหลายคนแสดงออกมาใจ ฝนตกกระหน่ำลงมา ตัดสินใจกลับที่พักอย่างทันที คนละไม้คนละมือ เป็นการร่วมแรงร่วมใจ คนโตดูแลคนเล็ก คนเล็กก็ดูแลคนโต เด็กๆ ผู้จัดเอง คนอื่นๆที่มองเห็นก็ชื่นใจ ความรักจากหัวใจเริ่มเบ่งบานออกไปสู่สังคมรอบกาย

ความเหนื่อยอ่อนของร่างกายจากการเล่นน้ำอย่างสนุก และ ลงแรงช่วยกันขนของกลับที่พักยังคงอยู่ คืนนี้เราจึงให้ของขวัญแก่กัน ความประทับใจที่มีต่อกัน ทั้งน้ำตา รอยยิ้ม อ้อมกอดอุ่นๆ กอดกัน ให้ของขวัญ เป็น”กำลังใจ” ค่ำคืนนี้ ทั้งน้ำตา วงพูดคุยยาวต่อเนื่อง จนล่วงเข้าวันใหม่

เช้านี้กิจกรรมสามฐาน คิด ใจ และกาย กับการพัฒนาการของหัวสมอง ทั้งสามส่วนหลัก คิดเตรียมพร้อมกับสถานการณ์วิกฤติที่อาจจะเกิดจากภัยธรรมชาติ ที่อาจเกิดขึ้นเพราะการปรับและรักษาตัวเองของโลก จะเอาชีวิตรอดได้อย่างไร หัวใจที่เปิดกว้างขึ้นกว่าเดิม การส่งเสียงออกมาเป็นการบรรเทาและการเปิดหัวใจให้มีความกล้าเล็กๆที่จะพัฒนาต่อไป ฐานกายกับกิจกรรมผจญภัยง่ายๆ ซึ่งเกิดจากความร่วมร่วม และการสำรวจร่างกายเพื่อเพิ่มพลังให้กับเซลต่างๆ การทำบ่อยๆเป็นการจดจำของกล้ามเนื้อ และเซลเช่นกัน สรุปบทเรียนจากประสบการณ์ของผู้เข้าร่วมเอง เป็นอีกหน้าที่หนึ่งของกระบวนกร

ตกบ่ายระบายสีงาน Paper Mache ที่ทำเอาไว้ จากแม่สีสามสี และ สีขาวอีกหนึ่ง ทั้งผู้เข้าร่วมและผู้จัดก็ได้เรียนรู้ การผสมผสานสิ่งๆต่างๆเพื่อผลงานอย่างหนึ่ง ระหว่างรองานแห้ง เกมเล็กๆที่เน้นฐานกายก็เรียกเสียงหัวเราะและหยาดเหงื่อได้เป็นอย่างดี งานเสร็จแล้ว

ค่ำคืนนี้เป็นคืนสุดท้าย อาหารเย็นนี้จึงเป็นฝีมือของเด็กๆส่วนหนึ่ง “ไก่ย่าง” ไก่สด เกลือหนึ่งถ้วย และไม้ขีดไฟ เศษฟืน กองไฟ ต้องสร้างขึ้นเอง ไม่มีการแข่งขัน มีแต่การช่วยเหลือกันระหว่างกลุ่ม กลุ่มหนึ่งติดไฟไม่ได้อีกกลุ่มมาช่วย กลุ่มหนึ่งไม่เคยทำอาหารอีกกลุ่มมาช่วยดู สมาชิกในกลุ่มก็หยิบยื่นน้ำเย็นเป็นการตอบแทน “น้ำใจ”

ไก่ตรงหน้ามาจากไก่สี่ตัว ย่างคล้ายๆกัน เค็มมาก เค็มน้อยพอๆกัน ทุกตัวอร่อยเท่ากัน เพราะทุกตัวเป็นฝีมือของตัวเอง เป็นคุณค่าภายในตนเอง การแบ่งปัน ส่วนต่างๆออกไป ให้คนอื่น สุกบ้างไม่สุกบ้าง อิ่มกาย อิ่มใจ

ก่อนลาจากเราให้ของขวัญกันเช่นเดิม เป็นการขอบคุณและขอโทษ สิ่งต่างๆออกมาจากหัวใจ และกล้าหาญ กล้าที่จะบอกความจริงแก่กันตามจริง ไม่ถือโทษโกรธกัน อภัยกันและกัน สร้างคุณค่าย้ำความมีคุณค่าให้กับตัวเองและทุกคน คืนสุดท้าย กลุ่มก้อนเดียวกัน มองดูเวลา อีกสามชั่วโมงอาทิตย์คงจะขึ้น

เช้านี้กวีดีๆมากมายเกิดขึ้น หลายคนหลุดออกจากกรอบที่ถูกครอบงำ ล้วนเป็นบ่งบอกการคร่ำครวญถึงประสบการณ์ดีๆตลอดช่วงเวลาที่เกิดขึ้น จดหมายที่เขียนให้เพื่อนที่แสนดีที่สุดของเราเอง ”ตัวเอง” เด็กน้อยที่สุดอยู่กลางวง พี่โตยืนล้อมรอบเป็นเกลียว เสมือนการเติบโตของช่วงอายุ ความกล้าหาญในการอ่านจดหมายที่จ่าหน้าถึงตัวเองด้วยความรักและความอ่อนโยนในหัวใจ เรียกน้ำตาของทุกคนได้ เป็นการสะเทือนเขาไปถึงข้างในหัวใจของทุกช่วงอายุ ผู้ปกครองบางคนมารับลูกลับก็ได้รับโอกาสให้ส่งเสียง เจ้าของสถานที่ พี่เลี้ยง เสียงของทุกคนล้วนเป็นเสียงที่สำคัญ


สุดท้าย เป็นการมอบของขวัญให้กับอาจารย์ ที่ใกล้วันเกิดท่านเต็มที เป็นการมอบของขวัญอันยิ่งใหญ่ที่เป็นการมอบให้กับผู้มีพระคุณ คำอวยพร และอ้อมกอดที่กลั่นออกมาจากหัวใจทุกคน

รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน ยังมีรอยยิ้ม น้ำใจที่แสดงออกเพิ่มเติม เรียกได้ว่าเป็นที่ประทับใจของทุกสายตาที่พบเห็น อิ่มแล้วเด็กๆมุ่งหน้าไปที่ห้องครัวกล่าวยกมือไหว้คำขอบคุณให้กับผู้อำนวยความสะดวกของเราทั้งหลาย เจ้าหน้าที่ พนักงาน น้ำตาของพี่ๆเหล่านั้นเจิ่งนอง ด้วยความยินดี มีคุณค่ากับงานที่ทำ

อาจไม่ต้องกล่าวสรุปแต่ประการใดในผลลัพท์ที่เกิดขึ้นต่อตัวเองกับ Youth Inspiration Camp ที่ วังดุม เมาเทน แค็มพ์ ทุกกิจกรรมที่จัดขึ้นจากความเชื่อ “มนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ มนุษย์มีคุณค่าในตัวเอง และเชื่อมั่นในกิจกรรมดีๆของเรา” ซึ่งเต็มไปด้วยความรัก ความเมตตา การสร้างคุณค่าให้และเปลี่ยนเป็นแรงแห่งการสร้างแรงบันดาลใจของตนเอง สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจาก เพียงการเปิดพื้นของหัวใจที่รับฟังอย่างอิสระให้ทุกคนได้ส่งเสียงของตัวเองออกมา เป็นพลังจากด้านในที่มาแปรเปลี่ยนพลังที่ส่งออกมาให้ถูกต้องตามครรลอง จึงจะสามารถสั่นสะเทือนไปถึงผู้คนรอบกายได้อย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่าเรื่อง “เงิน” ยังคงเป็นปัญหาไม่พอเลี้ยงตัวเองได้ในงานแรก แต่สิ่งที่ได้คือแรงแห่งหัวใจที่เกิดขึ้น จากการได้ลงมือทำในสิ่งที่พวกเราเชื่อมั่นได้สำเร็จ และผลลัพท์ของเด็กๆออกมาตรงกับใจหวัง ทุกสิ่งล้วนออกมาจาก “แรงบันดาลใจ”ของเราเอง

1 ความคิดเห็น:

  1. เรียนผู้จัดกิจกรรม

    กระผมได้อ่านบทความข้างต้นแล้วรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก และขออนุ
    ญาติชื่นชมจากใจ

    กิจกรรมเล่านี้เป็นประโยชน์อย่างสูงถ้าได้รับการเผยแพร่

    ด้วยเหตุนี้กระผมไคร่ขอเรียนรู้รายละเอียดกิจกรรมในแต่ละขั้นตอน
    เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไป(รายละเอียดกิจกรรมกลุ่ม,กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์)

    วิทยาทานเล่านี้จะส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมต่อไป

    เป็นความกรุณาอย่างสูง ในการติดต่อกับกระผม หรือส่งรายละเอียดมาทางที่อยู่ข้างล่าง

    ด้วยความนับถือ
    นายนันทพงษ์ วุฒิสวัสดิ์
    ผู้ประสานงานโครงการการยอมรับบริการการให้คำปรึกษาก่อนการตรวจเลือดหาร่องลอยการติดเชื้อHIV
    สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
    สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่
    email adress:woottisawat@hotmail.com

    ตอบลบ

เกี่ยวกับฉัน

ในที่แห่งนี้เป็นที่ถ้อยแถลงในหัวใจเรา