เช้าวันนี้เป็นวันที่มีสุริยคราสยาวนานเป็นประวัติการในศตวรรษนี้ เพื่อนก็ตื่นเช้ามาภาวนากันเช่นเดิม เราก็ตื่นเมื่อเขาเสร็จกันแล้วเช่นเดิม สบายๆ วันนี้มาสายหน่อยที่ห้องพระเพราะเริ่มนั่งสมาธิกันแล้ว เนียนเข้าไปไม่รู้เรื่องอะไร สบายๆเนียน วันนี้หลังเลิกกิจกรรมห้องพระเราเองก็นั่งอยู่กับพื้น เด็กเดินผ่านก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะก็มีบางคนไหว้ แล้วก็ไม่ไหวธรรมดา แต่ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น “เห็นมั๊ยคะว่าแขก เป็นผู้ใหญ่นั่งอยู่ กลับไปเดินมาใหม่เดี๋ยวนี้ แล้วผู้ใหญ่นั่งอยู่ต้องทำอย่างไร “ เอาหละสิ ต้องเอาตัวเองไปเป็นตัวละครของเด็ก ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน ระหว่างนั่งให้เด็กๆคลานผ่านก็รู้สึกกระดากเช่นกัน มีความรู้สึกว่าต้องดูแลตัวเอง และ สูงเหนือกว่าเค้านิดๆโผล่ขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้มากนัก เป็นความรู้สึกไม่ค่อยโอเคมากกว่า ต้องรออยู่จนเด็กเดินแถวผ่านจยหมด ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะดูแลตัวเองในสฐานะการณ์อย่างนี้
วันนี้ช่วงเช้าก็มีเวลาค่อนข้างเยอะพอมควร ขณะนั่งทานข้าวก็มีคุณครูมาฟ้องเราว่าเด็กที่มักจะมาเล่นกับเรานั้นเมื่อวานดื้อเอาเสียมากๆ แล้วคุณครูก็เล่าวีรกรรมให้ฟัง “ไม่รู้ว่าเป็นอะไรกันดื้อมาก เป็นการดุครั้งแรกของปีนี้ทีเดียว “ เราเองก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรก็คงตอบไปขำๆว่า “สงสัยเป็นสัญญาณของการที่จะเกิดสุริยปราคากระมังครับ ธรรมชาติดินฟ้าผิดเพี้ยนไป เด็กๆก็เลยซนเกินกว่าธรรมดา คุณครูอาจต้องไหว้ของดำเด็กอาจกลับคืน” ซึ่งก็ได้ผลคุณครูหัวร่อสบายใจขึ้นมากโข วันนี้ก็ได้ทราบข่าวว่าเมื่อวานตอนเช้าท่านอาจารย์ล้มหัวกระแทกพื้นและหลับไปค่อนข้างนาน ไม่มีใครทราบ อาจารย์ต้องช่วยประคองตัวเองให้มาที่โซฟาที่บ้านพักเอง เมื่อนักเรียนสวดมนต์กันเสร็จจึงได้มาพบท่านอาจารย์ที่บ้านและก็ทราบว่าอาจารย์ท่านล้มลง เป็นเรื่องที่ต้องดูแลอาจารย์ท่านเพราะว่าอาจารย์ทำงานหนักเหลือเกิน เกินความที่ปกติคนช่วงวัยท่านจะทำกัน เรียกได้ว่ามีเวลาพักผ่อนน้อยนิดเดียวเท่านั้น หลังจากเข้าแถวเราก็มานั่งเขียนบันทึกนี้อยู่ที่ห้องพักอาจารย์อาจอง ซึ่งจะมีคนเข้าออกอยู่ตลอดเวลา เด็กๆก็มานั่งเล่นด้วยเช่นกัน
ชีวิตวันนี้ราบรื่นเป็นปกติทั่วไปช่วงบ่ายมีบรรยายจาก Teacher ในเรื่องของ Philosophy of Educare เราพูดถึงปัญาที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบันที่เกิดขึ้นจากแนวคิด วิธีคิดขอองยุคสมัย การเปลี่ยนแปลงที่ทุกคนเริ่มที่จะแข่งขันกัน การศึกษาก็เป็นช่องทางที่สร้างคนเพื่อตอบสนองความต้องการภาคส่วนของสังคมอีกเป็นการ เพราะมนุษย์ก็เป็นทรัพยากรที่จะสร้างสรรอะไรๆให้เกิดขึ้นต่อๆไป วันนี้รู้สึกว่าการฟังของเราค่อนข้าง ok แม้ว่าจะมีบางอย่างที่รู้สึกว่าเร้วไป แต่สิ่งที่ได้รับก็ประมาณ 70% ซึ่งก็คงต้องใช้เวลาในการปรับตัวอีกประเดี๋ยว มีความกังวลเช่นกันว่าจะใช่เวลาในการปรับตัวนานเกินไป เป็นความขัดแย้งภายในที่กำลังก่อกำเนิดขึ้นภายในหัวใจของตัวเอง
วันนี้กลับที่พักมีเวลาออกกำลังกายด้วยการรำมวยขณะที่คนอื่นๆกำลังสวดมนต์กัน ก็เป็นเรื่องที่สามารถอยู่ร่วมได้อย่างไม่มีปัญหา วันนี้มีวงแลกเปลี่ยนการสวดมนต์ของฮินดูในแต่ละภาษา เรียกว่าเป็นการสอนร้องเพลงก็ว่าได้ สนุกสนานดี เราเองก็ลยทำหน้าที่เล่นกับ Tom เด็กน้อยชาวฝรั่งเศส พอคุณเธอได้พูดคุณก็พูดไม่ยอมหยุด แต่เราก็คุยกันได้ แม้ว่าจะไม่รู้เรื่องในสิ่งที่เค้าพูดก็ตาม อันนี้ก็เป็นอีกเรื่อง ถ้าเป็นเด็กไทยที่พล่ามขนาดนนี้แล้วเรารู้เรื่อง การให้ค่าตีความของเราจะเป็นอย่างไร เปลี่ยนไปอย่างไร เป็นเรื่องที่น่าสนใจเช่นกัน เพียงเพราะเราฟังไม่รู้เรื่อง อย่างนี้มันเลยทำให้เราไม่รู้สึกรำคาญ หรือว่าเพราะความน่ารักของเด็กน้อยตำลมผมทองแก้มย้วยกันแน่....ไว้จะถ่ายรูปมาให้ชมแล้วกันว่าหน้าตาเขาเป็นอย่างไรแล้วคืนนี้ก็หลับเป็นตาย เพราะเหนื่อยใช่ย่อย
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
เกี่ยวกับฉัน
- poom
- ในที่แห่งนี้เป็นที่ถ้อยแถลงในหัวใจเรา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น