วันจันทร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2552

ได้คิด...เตรียมตัว

หลายวันที่เราต้องเหงาอยู่คนเดียวที่บ้าน เพราะไม่มีใครอยู่บ้านเลย แม่กลับไปเชงเม้ง พ่อไปอยู่บ้านย่า เราเพิ่งได้รู้ถึงหัวอกแม่ที่ถูกทิ้งให้อยู่บ้านคนเดียวบ่อยๆ เพราะเราเองก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านกัน แม่จึงต้องอยู่บ้านคนเดียว บ้านที่ไร้ชีวติชีวาของสมาชิกครอบครัวที่หายไป

การอยู่คนเดียวเท่านั้น ที่ทำให้เราได้กลับมาใคร่ครวญ รู้สึกถึงอารมณ์ส่วนลึกภายใน ความเหงาที่เข้าเกาะกัดภายใน เหตุใดหนอที่ความทุกข์อันนี้มาเกาะกินภายในของเราได้ ความอ่อนแอของจิตใจที่ปล่อยให้ความเหงา และความเศร้าเข้ามาขบแทะหัวใจอันบอบบางในตอนนี้

บ่อยครั้งเหมือนกันที่ความเหงาและความเศร้าก็เข้ามาเป็นเพื่อนของหัวใจ เป็นการกลับมาให้เราได้ย้อนถึงความสุขที่ไม่เที่ยงแท้ ความไม่แน่ไม่นอนของชีวิต ขนาดความสุขที่เราปลาบปลื้มนักหนาก็ยังไม่อยู่ยั้งกับเราเสมอไป กลับมามองดูความสัมพันธ์ในครอบครัวของเราเอง ความสุขที่เราเคยมีจากการอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างสมาชิกในครอบครัว มันเป็นเสมือนสายใยที่เชื่อมโยงเกาะเกี่ยวกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มีขาดสมาชิกใครคนใดคนหนึ่งไปก็ทำให้เส้นสายหนึ่งหลุดล่วงไป เป็นเหมือนความไม่เต็มด้านในเมื่อเราอยู่บ้าน กับสมาชิกในครอบครัวของเราที่มีอยู่เพียงแค่สามคนเท่านั้น ก็ยิ่งทำให้ความเชื่อมโยงนั้นมีไม่มาก และเมื่อมีเส้นสายหายไปจากการขาดไปของสมาชิกเพียงคนหนึ่งก็ทำให้อีกสองคนเกี่ยวแน่นกันยิ่งขึ้น และความอ้างว้างภายในของสองคนก้มากขึ้นด้วย เราจึงต้องเกาะเกี่ยวให้แน่นยิ่งขึ้นเช่นกัน

กลับมามองถึงตอนนี้ที่เราต้องอยู่คนเดียว ไม่มีใครเลยในบ้าน มองไปทางไหนก้ทำให้เรามองเห็น พ่อกับแม่ เคลื่อนไหวอยู่ในที่ที่พ่อกับแม่ชอบอยู่ ตรงเสื่อเห็นพ่อนอนอยู่ ในครัวเราได้ยิงเสียงแม่ทำกับข้าว มองให้ลึกลงไปอีกนี่เป็นเพียงการห่างกันไม่กี่วันเท่านั้น แต่ถ้าเวลาแห่งการจากไกลมาถึงเราจะเป็นอย่างไร



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เกี่ยวกับฉัน

ในที่แห่งนี้เป็นที่ถ้อยแถลงในหัวใจเรา